PAPA Shabu Farm @ Town In Town อร่อย อิ่มกำลังดี วัตถุดิบคัดสรร เจ้าของร้านขาดทุนไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้

PAPA Shabu Farm @ Town In Town อร่อย อิ่มกำลังดี วัตถุดิบคัดสรรแบบขาดทุนไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้ 

พออายุมากขึ้นก็เริ่ม ๆ จะห่างหายจากอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ เพราะจะให้ไปกินแบบเยอะ ๆ เอาปริมาณมากเข้าว่าจะได้คุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายไปแบบสมัยวัยรุ่นคงทำไม่สะดวกแล้ว เพราะระบบเผาผลาญไม่ค่อยดี นั่งหายใจเฉย ๆ ยังแอบนอยด์กลัวจะอ้วนเลย 

ทั้งที่เมื่อก่อนเอะอะ ก็บุฟเฟต์ปิ้งย่าง ไม่หมูกระทะก็ปิ้งย่างแบบเกาหลี กินแบบวันเว้นวันกันเลยทีเดียว 
หลัง ๆ มาเริ่มกลัว ทั้งความอ้วน และมะเร็ง (สามชั้นย่างเกรียม ๆ นี่มันอร่อยยฟินมาก ต้องย่างแบบแห้ง ๆ ไหม้ ๆ ด้วยนะ) เลยห่างจากการกินปิ้งย่างไปพอสมควร นาน ๆ กินที พอให้หายอยาก 

เดี๋ยวนี้เลยหันมากินชาบูบ่อยกว่าแต่ก่อน ก็ผลัดเปลี่ยนร้านไปกินเรื่อย ๆ 
มีอยู่สองร้านประจำ ถ้าวันไหนอยากกินแบบจัดจ้านหน่อยก็ไปที่ บุญโภชนา แต่ถ้าอยากไปกินแบบอร่อย วัตถุดิบชั้นดี แถมเป็นบุฟเฟ่ต์ก็จะไปที่ FuFu Shabu พระรามสี่ นอกนั้นถ้าเป็นร้านอื่นก็ไปกินแค่ครั้งเดียวแล้วก็ไม่ได้ไปอีก เพราะเอาเข้าจริง ๆ รสชาติมันคล้าย ๆ กันไปหมด 

ล่าสุดขับรถผ่าน Town In Town เห็นตู้คอนเทนเนอร์สีดำขนาดใหญ่ เปิดไฟสว่างโร่ ตั้งตระหง่านอยู่ริมทาง 
ดัดแปลงตู้คอนเทนเนอร์เปิดเป็นร้านชาบู ขนาดกระทัดรัด ตกแต่งเก๋ ๆ เน้นงานโครงสร้าง ขนาดประมาณ 8 โต๊ะ โอเค บรรยากาศเก๋ดี เลยแวะชิม (ที่จริงเห็นคน Check in ร้านนี้้เยอะมาก แต่ Search ดู ไม่ยักกะมีคนทำรีวิว)  


ร้านชื่อ PAPA Shabu Farm หาไม่ยาก อยู่ใน Town In Town ฝั่งเดียวกับโครงการ The Scene ใกล้ ๆ กับร้านอบอร่อยและโคขุนชื่อดัง 
ร้านเด่น เป็นสง่า มองไม่เห็นจนขับรถผ่านก็อาจต้องวัดสายตาตัดแว่นแล้วหละ 


PAPA Shabu Farm ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะ บอกไว้ก่อน 
มาถึงก็ติ๊ก ๆ สั่งตามเมนูได้เลย ราคาจุ๋มจิ๋มน่ารัก ผักเริ่มต้นที่ 15 บาท ส่วนหมูเริ่มต้นที่ 29 บาท 
ตอนแรกคิดว่าคงมาแบบชิ้นเล็ก ๆ ที่ไหนได้ ตอนมาเสริ์ฟชิ้นใหญ่เชียว


น้ำซุปมีสี่แบบ สามารถเลือกได้ 2 แบบต่อหนึ่งหม้อ 
วันนี้มากินสี่คน เลยขอ 2 เตา เลยได้กกิน 2 หม้อ แต่เลือกน้ำซุป 3 แบบ (อ่านแล้วงงมะ พิมพ์เองยังงงเอง)

น้ำซุปมีให้เลือก 4 แบบ ซุปดำสุกี้ยากี้,ซุปแดง Red Hot, ซุปมิโซะ และซุปน้ำใส (ไม่ได้เลืิอกซุปน้ำใส เพราะคิดว่ารสชาติคงไม่ต่างจากร้านอื่น)



คนไม่เยอะมาก สั่งแป๊บเดียว หม้อก็มาตั้ง อาหารก็ตามมา 
ความเก๋อยู่ตรงที่หมู เนื้อ ลูกชิ้น ผัก ทุกถาดถูกซีลพลาสติคไว้ ตอนแรกคิดว่าเค้าคงกลัวฝุ่นลง กลัวจะไม่ถูกหลักอนามัยเลยแกล้งแซวเจ้าของร้าน ปรากฎว่าเจ้าของร้านเฉลยว่าที่ต้องคลุมพลาสติคไว้นอกจากจะเพื่อความสะอาดแล้ว ยังป้องกันไม่ให้อาหารโดนลมแล้วแห้ง เดี๋ยวจะไม่อร่อย 
เอ่อมมมมม ก็จริง เพราะทุกถาดที่เสริ์ฟมา ทั้งหมูทั้งเนื้อยังสด ๆ เด้ง ๆ อยู่เลย 




น้ำซุปที่สั่งมาอร่อยทั้งสามแบบ แถมเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน ( สูตรของคุณพ่อ เลยต้องชื่อร้านว่า Papa Shabu Farm)  แถมรู้เลยว่าวัตุดิบที่เลือกมาเป็นวัตุดิบเกรดดี แต่ขายราคาแค่ถาดละ 25 บาท 
แอบคิดเหมือนกันว่าน้องเจ้าของร้านขายเอาสนุกหรือไม่ แบบขาดทุนไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้


จะกินชาบูให้อร่อย เคล็ดลับเลยคือ ต้องกินแบบชาบู ชาบู คือเอาเนื้อจุ่มน้ำซุปร้อน ๆ แล้วสะบัดสองทีซ้ายขวา ซ้ายขวา ชาบู ชาบู เนื้อจะสุก นุ่ม กำลังดี 




น้ำจิ้มมีให้เลือก 3 แบบ สามารถปรุงรสเพิ่มได้ตามชอบใจ พริก กระเทียม หอมซอย มะนาว มีให้แบบไม่อั้น 
(ว่าไม่ได้นะ บางร้านขอเพิ่มคิด 20 บาท พวกร้านหมูกระทะนี่ตัวดีเลย โดนชาร์จประจำ กำไรจากเก็บยิบย่อยพวกนี้ซินะ) 



กินกันสี่คน สั่งแบบพายุพัด อยู่กันจนร้านปิด เช็คบิลมา หมดไปพันสองร้อยนิด ๆ ตกคนละ 300 แต่อิ่มอร่อย กำลังดี 
ไม่ต้องกินแบบยัดหมอนอิ่มจนจุกกลับบ้านแล้วต้องความหาอีโนกินก่อนนอน 


คือชาบูจะอร่อย เอาเข้าจริง ๆ นอกจากน้ำซุปกับน้ำจิ้มจะอร่อยแล้ว ส่วนสำคัญที่สุดคือวัตถุดิบต้องสดใหม่ สะอาดด้วยนะ เพราะอย่างพวกปิ้งย่างยังแอบมีเอาหมูเอาเนื้อไปหมักดับกลิ่นคาว สดไม่สดบางทีเราก็ไม่รู้ เพราะซอสและเครื่องเทศมันกลบหมด แต่ชาบูนี่คือวัตถุดิบต้องดีจริง ไม่งั้นกินไปแล้วไม่อร่อย

ร้านเปิดตั้งแต่สี่โมงเย็นจนถึงสี่ทุ่ม ไม่มีวันหยุด 
ใครผ่านไปผ่านมาแถวนั้นอย่าลืมแวะชิม  หาร้านไม่เจอโทรถามทางได้ที่ 095-4164615 
ถ้าจะไปเป็นหมู่คณะหรือไปช่วงเวลาอาหารเย็นพอดีอาจต้องโทรจองโต๊ะก่อน จะได้ไม่ไปรอให้โมโหหิว เพราะร้านไม่ใหญ่ มีแค่ 8-10 โต๊ะเอง 


อีกร้านอร่อยที่ไปชิมมาแล้วอยากแนะนำ 
ก่อนกลับอย่าลืมถ่ายรูปมุมเก๋ ๆ หน้าร้าน เป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาก็ต้องถ่าย