LIVING ARTS Festival 2014 งานดี ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง

LIVING ARTS Festival 2014 งานดี ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง 

 ช่วงนี้กระแสการเมืองกลบทุกข่าว จนทำให้งานดี ๆ อย่าง LIVING ARTS Festival 2014 กระแสหงอยเหงา
ทั้งที่ปกติจะมีคนถ่ายรูปและแชร์ภาพกันเยอะแยะมากมาย
เพราะงานนี้เป็นการเชิญศิลปินต่างชาติมาวาดรูป 3D และ 4D บริเวณแยกราชประสงค์ ให้คนที่เดินผ่านไปมาได้ชมและถ่ายรูป

จำได้ว่าปีก่อน คอนเซปงานดีมาก เปิดโอกาสให้ศิลปินโชว์ของแสดงฝีมือได้เต็มที่
เลยมีหลายชิ้นงานสวยเก๋มาก ๆ คนถ่ายรูปและแชน์กันเยอะแยะ
แต่ปีนี้ LIVING ARTS Festival 2014 มาในธีม Treasure Hunting
ถ้าเป็นเมื่อหลายปีก่อนคนคงตื่นตาตื่นใจ  แต่ ณ ปัจจุบัน ดูแล้วเหมือน ๆ กับภาพ 3D ตาม Museum ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นที่พัทยาหรือที่เชียงใหม่
ถ่ายรูปมาแล้วก็ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจซักเท่าไหร่ เพราะเห็นจนชิน คอนเซปเดิม ๆ ซ้ำ ๆ


คอนเซปงานแบบนี้ควรให้คนที่ผ่านไปมา ได้ไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นงาน
ทำท่าปีนป่าย เกาะเกี่ยว กระโดดไปมา แล้วถ่ายรูปแอคชั่นสวย ๆ


แต่เห็นหลายครั้งที่พี่ยามเดินมาไล่ซะงั้น ในขณะที่ก็อีกหลายครั้งเหมือนกันที่พี่ยามก็ปล่อยให้เหยียบย่ำผลงานและปล่อยให้ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย
เลยงงว่าสรุปแล้วผู้จัดงานตั้งใจให้คอนเซปงาน LIVING ARTS Festival ครั้งนี้เป็นแค่งานแสดงเพื่อโชวความสวยงาม
หรือเป็นงาน 3D และ 4D ที่ให้คนที่เดินผ่านไปมาได้มีส่วนร่วมด้วย




งานจัดตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2557 ใครผ่านไปแถวแยกราชประสงค์ก็แวะถ่ายรูปกับชิ้นงานบน Sky walk กันได้  


 มีอีกหนึ่งชิ้นงานที่อยู่หน้าห้างอัมรินทร์ พลาซ่า
แต่วันนี้ (25/5/2557) มีม๊อบก๊วนใหญ่ปะทะกับทหารหน้าห้าง
ไม่รู้ผลงานชิ้นนั้นจะมีอันเป็นไปไปแล้วหรือยัง







Clean Touch Technology ไม่ต้องคอยเติมแป้งและซับหน้าทั้งวันโดย MAYBELLINE

อากาศบ้านเราร้อนนะ ใครแต่งหน้าถ้านั่งในห้องแอร์ทั้งวันก็รอดไป
แต่ถ้าต้องใช้บริการขนส่งมวลชน เหงื่อคงอาบหน้า แป้งละลายหมด
หรือไม่แค่ลงไปเดินตากแดดช่วงพักเที่ยง รับรองเหงื่อไหล หน้ามัน 
ต้องคอยเติมแป้ง ซับหน้าตลอดทั้งวัน

MAYBELLINE เล็งเห็นจุดนี้ และพัฒนานวัตกรรมความงามแบบใหม่ ในชื่อ Clean Touch Technology
ซึ่งเนื้อแป้งที่ทาจะเรียงตัวกันในอีกรูปแบบหนึ่ง ทำให้เรียบเนียนไปกับผิวหน้า (ต้องส่องกล้องจุลทรรศน์ดูถึงจะเห็นความแตกต่าง)
และเมื่อเหงื่อออก เนื้อแป้งที่ทาไปจะ refresh ตัวเองในทุก ๆ 15 นาที ทำให้ไม่ต้องคอยซับหน้าหรือเติมแป้งทั้งวัน
โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ของ MAYBELLINE ตัวนี้ชื่อ White Superfresh ที่นอกจากเนื้อแป้งจะช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนแล้ว ยังมี SPF 34 PA+++

แถม MAYBELLINE ทำเก๋ เชิญ Beauty Blogger ไปร่วมพิสูจน์นวัตกรรมใหม่
ที่ร้าน Secret Garden ถนนสาธร ในบรรยากาศห้องทดลองสีฟ้าสดใส (ร้านนี้อาหารไทยอร่อย และเค้กอร่อยมาก)


ความแตกต่างของ White Superfresh กับแป้งทั่วไป คือตัวแป้งจะซับซับเหงื่อ
เลยมีการทดลองให้หยดน้ำลงไปบนตัวแป้ง เทียบกับแป้งยี่ห้ออื่น
จะเห็นว่าน้ำที่หยดลงไปบน White Superfresh จะซึมลงไปในเนื้อแป้งอย่างรวดเร็ว และเมื่อใช้ทิชชู่ซับ เนื้อแป้งก็ไม่ติดขึ้นมา
ในขณะที่ของอีกยี่ห้อนึง น้ำไม่ซึมและกลิ้งบนพื้นผิวแป้ง และพอใช้ทิชชุ่ซับ ปรากฎว่าเปื้อนเป็นคราบแป้ง



หลังจากทดลองกันจนพอใจแล้ว วันนี้ MAYBELLINE เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน
ซึ่งอาหารของ Secret Garden ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะอร่อยไม่เคยเปลี่ยน



พอทานคาวเสร็จต้องตามด้วยของหวาน ตอนแรกก็สงสัยว่าทีมงาน MAYBELLINE จะเสริ์ฟเค้กอะไร เพราะ Secret Garden ขึ้นชื่อเรื่องเค้กมาก
ปรากฎว่าทีมงาน MAYBELLINE ทำเซอร์ไพรส์ มีการทำ CUP Cake เป็นรูป Blogger แต่ละคนที่มาร่วมงานในวันนั้น

คือทั้งอร่อยและประทับใจ ที่สำคัญคนทำเค้กเก่งมาก ปั้นมาซะเหมือนเชียว
เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้ทั้งงาน Selfie กันเพลินเลย


ในงานยังมีการแจ้งว่าพรีเซนเตอร์ของแป้ง White Superfresh จะเป็นดาราท่านอื่นที่ไม่ใช่คุณเจนี่
เอ๊ะ ยังไง ?  แต่ตอนนี้หลาย ๆ คนคงทราบแล้วว่าเป็นน้องเบลล่า ราณี แคมเปน ส่วนคุณเจนี่จะยังเป็นพรีเซนเตอร์ของ MAYBELLINE อยู่หรือไม่ ต้องติดตาม


สำหรับแป้ง MAYBELLINE White Superfresh อีกไม่นานคงหาซื้อได้
ในราคาหลักร้อย แต่ประสิทธิภาพคุ้ม ใช้ดีเกินราคาจริง ๆ  มีให้เลือกทัั้งหมด 4 เฉดสี เลือกให้เหมาะกับสีผิว



10 สุดยอดนวัตกรรมในการกำจัดไขมันอย่างเห็นผล โดย APEX Profound Beauty ในงาน Fight the FAT Off

10 สุดยอดนวัตกรรมในการกำจัดไขมันอย่างเห็นผล โดย APEX Profound Beauty ในงาน Fight the FAT Off  

เมื่อก่อนสมัยเป็นวัยรุ่นเป็นคนผอม กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
อาหารหลักเลยคือบุฟเฟ่ต์ทุกชนิด โดยเฉพาะปิ้งย่าง
กินได้ไม่เคยเบื่อ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนทั้งที่ก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เรียกว่าระบบเผาผลาญยังดี

แต่พออายุมีเลข 3 นำหน้า นั่งหายใจอยู่เฉย ๆ ยังคิดว่าตัวเองจะอ้วนเลย
คนอื่นอาจจะมองว่าไม่เห็นอ้วน ผอมจะตาย
แต่ความจริงคือพุงเริ่มเป็นชั้น ไขมันเริ่มสะสม
บุฟเฟ่ต์ไม่ได้กินบ่อย ๆ เหมือนตอนเป็นวัยรุ่นแล้ว
แต่หนักไปทางสังสรรค์ ไวน์ เหล้า เบียร์ แทบจะทุกวัน
ส่วนการออกกำลังกาย ซึ่งควรทำ แต่ก็ยังห่างเหิน ขนาดสมัครฟิตเนสไปแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยได้ไป

 ล่าสุดไปงาน นิทรรศการ "Fight the FAT off" จัดโดย APEX Profound Beauty ที่ Siam Paragon ที่นำเอา 10 สุดยอดนวัตกรรมในการกำจัดไขมันอย่างเห็นผลมาจัดเป็นนิทรรศการขนาดย่อม ๆ
มีความรู้เรื่องไขมันเพื่อการกำจัดไขมันอย่างเห็นผล พร้อมภาพประกอบที่จะทำให้เราเข้าใจเทคโนโลยีแต่ละชนิดและทราบถึงนวัตกรรมต่างๆในการกำจัดไขมันอย่างเห็นผล


 ในงานมีแขกรับเชิญ 2 ท่าน ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การกำจัดไขมัน
 จากที่เมื่อก่อนเคยอ้วนมาก หนัก 150++ ขนาดบริษัทประกันชีวิตยังไม่ยอมให้ทำประกัน เพราะความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปเยอะ



ปัจจุบันทั้งสองท่าน ผอมเพรียว หุ่นดี ราวกับคนละคน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ของแบบนี้ต้องเห็นกับตา ลองกับตัว


สำหรับงานนิทรรศการ Flight the Fat off จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 25 พฤษภาคมนี้ ณ ชั้น 1 โซนแฟชั่น แกลเลอรี่ Siam Paragon ส่วนใครที่อยากผอมเพรียวและกำจัดไขมันส่วนเกินอย่างเห็นผล แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่ APEX Profound Beauty ทั้ง 16 สาขา

อยากผอม หุ่นดี บางทีก็ต้องมีตัวช่วย






ทริปดี ๆ สิริมงคลแก่ชีวิต นครพนม - สกลนคร

เมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสต้องเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนครพนม เลยใช้เวลาในช่วงนั้นทัวร์ไหว้พระ เพื่อเป็นสิริมงคลชีวิต เพราะจังหวัดนครพนมเองมีการจัดทัวร์ไหว้พระประจำวันเกิด ส่วนจังหวัดสกลนครซึ่งอยู่ติดกัน ก็มีวัดของเกจิอาจารย์ดัง ๆ อยู่หลายท่าน

การเดินทางมาสองจังหวัดนี้ก็ง่ายแสนง่าย ไม่ต้องนั่งรถทัวร์ข้ามวันเหมือนเมื่อก่อน สามารถเลือกใช้บริการแอร์เอเชียหรือนกแอร์ได้ตามอัธยาศัย
แต่ถ้าเลือกลงนครพนม หากจองล่วงหน้านาน ๆ หน่อย และบินแอร์เอเชีย จะได้ราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อ
เส้นทางนี้โปร 0 บาท มีออกมาเรื่อย ๆ

แต่รอบนี้ต้องบินกลับแบบฉุกละหุกนิดหน่อย เลยต้องใช้บริการนกแอร์
นิตยสาร JibJib มีการลงเรื่องของจังหวัดนครพนมซะอีก
ถือเป็นข้อมูลที่จะใช้ในการทัวร์ธรรมะในครั้งนี้


ช่วงที่เดินทางมรสุมเข้าพอดี รูปที่ถ่ายมาเลยจะติดเมฆครึ้มซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังดีที่ฝนไม่ตกลงมาจนเป็นอุปสรรคในการไหว้พระ

วัดแรกที่ไปสำหรับทริปนี้คือวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งมีพระธาตุประดิษฐานอยู่ โดยเป็นพระธาตุประจำวันของคนที่เกิดวันอาทิตย์

ตามตำนานกล่าวว่าสร้างมานานไม่น้อยกว่า 2,300 ปี เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดย เฉพาะอย่างยิ่งชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงประชาชนลาวด้วย ในฤดูเทศกาล เพ็ญเดือน 3 ของทุกปี พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ มาสมโภชและนมัสการพระธาตุพนม

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ อ.ธาตุพนม โดยห่างจาก อ.เมือง ประมาณ 30 นาที





วัดที่สองที่ไปคือ วัดพระธาตุศรีคูณ ซึ่งมีพระธาตุศรีคูณประดิษฐานอยู่ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดวันอังคาร โดยวัดพระธาตุศรีคูณตั้งอยู่ที่ อ.นาแก อยู่ห่างจาก อ.เมือง ราว ๆ 40-50 นาที



วัดที่สามที่ไปคือวัดพระธาตุเรณู ซึ่งมีพระธาตุเรณูประดิษฐานอยู่ เป็นพระธาตุประจำวันของคนที่เกิดวันจันทร์



ไปไหว้พระธาตุเรณู ที่ อ.เรณูนคร มีเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาด นั่นคือขนมจีนน้ำปลาร้า
ร้านเด็ดร้านดังคือร้านพิสมัย ใครไปก็ต้องแวะชิม (ในนิตยสาร JubJib ก็แนะนำไว้)
แต่ตอนไปถามทางคนแถวนั้นให้ถามหาร้านเจ๊แต๋ว ไปถามหาเจ๊พิสมัยอาจเกิดอาการมึนงงกันได้
ใครไม่ทานปลาร้า ก็มีน้ำกะปิไว้ให้ ขนมจีนบีบเส้นสด ๆ ใหม่ ๆ ทานกับผักลวก ไข่ปิ้ง
รับรองอร่อยจนอยากซื้อกลับกรุงเทพ 


วัดที่สี่ที่ไปคราวนี้ข้ามมาฝั่งจังหวัดสกลนครกันบ้าง คือวัดป่าสุทธาวาส ซึ่งเป็นวัดที่ลูกศิษย์ลูกหาของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ และหลวงปู่หลุยส์ จันทสาโร จำนวนมากทั่วประเทศแวะเวียนมานั่งวิปัสสานะอยู่เรื่อย ๆ ถึงแม้ทั้งสองท่านจะล่วงลับไปนานแล้ว




มาจังหวัดสกลนครพลาดไม่ได้เลย 2  เมนูเด็ด
ตำซั่วสกล รสชาติแซ๊บลืม หากินได้ตามร้านส้มตำทั่วไป อร่อยทุกร้าน
ตำซั่วสกลจะใส่ผักดอง ผักชีลาว ถั่วงอก บางร้านราดน้ำยาขนมจีนเพิ่มด้วย 


อีกเมนูหนึ่งคือปากหม้อ ร้านเด็ดรสอร่อยที่แนะนำคือร้านปากหม้อโรงหนังปารีส (โรงหนังปารีสปิดกิจการไปนานแล้ว แต่คนก็ยังเรียกชื่อนี้อยู่) ร้านนี้อร่อย ขายดิบขายดี อาจจะต้องรอคิวนานหน่อยถ้าไปตอนเที่ยง แต่อยากให้อดทน เพราะอยากกินของอร่อย ต้องใจเย็น ๆ

กินมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันรสชาติอร่อยไม่เปลี่ยน 




ถ้ากินแล้วติดใจ สั่งแพคใส่กล่องกลับมากินที่กรุงเทพได้
ทางร้านมีบริการแพคใส่กล่องอย่างดี หิ้วขึ้นเครื่องได้สบาย ๆ

วัดที่ห้าข้ามกลับมาที่ จ.นครพนม วัดโฆษิตาราม (วัดธาตุมหาชัย) ซึ่งมีพระธาตุมหาชัยประดิษฐานอยู่ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันพุธ ตั้งอยู่ที่อ.ปลาปาก ห่างจาก อ.เมืองประมาณ 30 นาที



และวัดที่หก ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายสำหรับทริปนี้ คือวัดมหาธาตุ ซึ่งมีพระธาตุนครประดิษฐานอยู่ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันเสาร์ (เกิดวันเสาร์ เลยต้องมาไหว้พระธาตุที่นี่แบบต้องมาให้ได้)


ของฝากของจังหวัดนครพนมที่อร่อยและต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก เพราะเชื่อว่าคนที่ได้รับต้องอร่อยจนติดใจคือหมูยอ อร่อยแทบทุกร้าน แต่ขอแนะนำหมูยอร้านเหรียญทอง เพราะอร่อยและทำเสร็จร้อน ๆ แถมที่ร้านยังมีของฝากอย่างอื่นให้เลือก

ถือเป็นทริปที่มีความสุขอีกทริป เพราะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้า และได้ไปไหว้พระเพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิตแบบที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน

สำหรับการเดินทางทั้งหมดไม่ได้ไปทุกที่ภายในวันเดียว เพราะอยุ่หลายวัน ว่างวันไหนก็ไปเมื่อนั้น ขับรถตามต่างจังหวัดรถไม่ติด ระยะทาง 40-70 กิโลเมตรก็จริง แต่ขับรถ 20-30 นาทีก็ถึง

ไม่เหมือนอยู่กรุงเทพ บางทีแค่ขับรถจากหัวลำโพงมาพระรามสี่ ยังใช้เวลา 2 ชั่วโมงก็ยังเคย

เป็นอีกเรื่องราวดี ๆ ที่อยากจะนำมาเล่าให้ฟัง
สำหรับคนที่มีเวลาและมีโอกาส ลองไปเที่ยวที่จังหวัดนครพนมและสกลนคร
ถ้าอยากไปช่วงเทศกาล จังหวัดนครพนมก็มีเทศกาลไหลเรือไฟ ส่วนจังหวัดสกลนครก็มีประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง รายละเอียดต่าง ๆ ลองถามอากู๋ดู ข้อมูลเพียบ

รับรองว่าไปแล้วจะประทับใจ อาหารอร่อย อิ่มท้อง แล้วยังอิ่มบุญอีกต่างหาก