เมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสต้องเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนครพนม เลยใช้เวลาในช่วงนั้นทัวร์ไหว้พระ เพื่อเป็นสิริมงคลชีวิต เพราะจังหวัดนครพนมเองมีการจัดทัวร์ไหว้พระประจำวันเกิด ส่วนจังหวัดสกลนครซึ่งอยู่ติดกัน ก็มีวัดของเกจิอาจารย์ดัง ๆ อยู่หลายท่าน
การเดินทางมาสองจังหวัดนี้ก็ง่ายแสนง่าย ไม่ต้องนั่งรถทัวร์ข้ามวันเหมือนเมื่อก่อน สามารถเลือกใช้บริการแอร์เอเชียหรือนกแอร์ได้ตามอัธยาศัย
แต่ถ้าเลือกลงนครพนม หากจองล่วงหน้านาน ๆ หน่อย และบินแอร์เอเชีย จะได้ราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อ
เส้นทางนี้โปร 0 บาท มีออกมาเรื่อย ๆ
แต่รอบนี้ต้องบินกลับแบบฉุกละหุกนิดหน่อย เลยต้องใช้บริการนกแอร์
นิตยสาร JibJib มีการลงเรื่องของจังหวัดนครพนมซะอีก
ถือเป็นข้อมูลที่จะใช้ในการทัวร์ธรรมะในครั้งนี้
ช่วงที่เดินทางมรสุมเข้าพอดี รูปที่ถ่ายมาเลยจะติดเมฆครึ้มซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังดีที่ฝนไม่ตกลงมาจนเป็นอุปสรรคในการไหว้พระ
วัดแรกที่ไปสำหรับทริปนี้คือวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งมีพระธาตุประดิษฐานอยู่ โดยเป็นพระธาตุประจำวันของคนที่เกิดวันอาทิตย์
ตามตำนานกล่าวว่าสร้างมานานไม่น้อยกว่า 2,300 ปี เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดย เฉพาะอย่างยิ่งชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงประชาชนลาวด้วย ในฤดูเทศกาล เพ็ญเดือน 3 ของทุกปี พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ มาสมโภชและนมัสการพระธาตุพนม
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ อ.ธาตุพนม โดยห่างจาก อ.เมือง ประมาณ 30 นาที
วัดที่สองที่ไปคือ วัดพระธาตุศรีคูณ ซึ่งมีพระธาตุศรีคูณประดิษฐานอยู่ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดวันอังคาร โดยวัดพระธาตุศรีคูณตั้งอยู่ที่ อ.นาแก อยู่ห่างจาก อ.เมือง ราว ๆ 40-50 นาที
วัดที่สามที่ไปคือวัดพระธาตุเรณู ซึ่งมีพระธาตุเรณูประดิษฐานอยู่ เป็นพระธาตุประจำวันของคนที่เกิดวันจันทร์
ไปไหว้พระธาตุเรณู ที่ อ.เรณูนคร มีเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาด นั่นคือขนมจีนน้ำปลาร้า
ร้านเด็ดร้านดังคือร้านพิสมัย ใครไปก็ต้องแวะชิม (ในนิตยสาร JubJib ก็แนะนำไว้)
แต่ตอนไปถามทางคนแถวนั้นให้ถามหาร้านเจ๊แต๋ว ไปถามหาเจ๊พิสมัยอาจเกิดอาการมึนงงกันได้
ใครไม่ทานปลาร้า ก็มีน้ำกะปิไว้ให้ ขนมจีนบีบเส้นสด ๆ ใหม่ ๆ ทานกับผักลวก ไข่ปิ้ง
รับรองอร่อยจนอยากซื้อกลับกรุงเทพ
วัดที่สี่ที่ไปคราวนี้ข้ามมาฝั่งจังหวัดสกลนครกันบ้าง คือวัดป่าสุทธาวาส ซึ่งเป็นวัดที่ลูกศิษย์ลูกหาของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ และหลวงปู่หลุยส์ จันทสาโร จำนวนมากทั่วประเทศแวะเวียนมานั่งวิปัสสานะอยู่เรื่อย ๆ ถึงแม้ทั้งสองท่านจะล่วงลับไปนานแล้ว
มาจังหวัดสกลนครพลาดไม่ได้เลย 2 เมนูเด็ด
ตำซั่วสกล รสชาติแซ๊บลืม หากินได้ตามร้านส้มตำทั่วไป อร่อยทุกร้าน
ตำซั่วสกลจะใส่ผักดอง ผักชีลาว ถั่วงอก บางร้านราดน้ำยาขนมจีนเพิ่มด้วย
อีกเมนูหนึ่งคือปากหม้อ ร้านเด็ดรสอร่อยที่แนะนำคือร้านปากหม้อโรงหนังปารีส (โรงหนังปารีสปิดกิจการไปนานแล้ว แต่คนก็ยังเรียกชื่อนี้อยู่) ร้านนี้อร่อย ขายดิบขายดี อาจจะต้องรอคิวนานหน่อยถ้าไปตอนเที่ยง แต่อยากให้อดทน เพราะอยากกินของอร่อย ต้องใจเย็น ๆ
กินมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันรสชาติอร่อยไม่เปลี่ยน
ถ้ากินแล้วติดใจ สั่งแพคใส่กล่องกลับมากินที่กรุงเทพได้
ทางร้านมีบริการแพคใส่กล่องอย่างดี หิ้วขึ้นเครื่องได้สบาย ๆ
วัดที่ห้าข้ามกลับมาที่ จ.นครพนม วัดโฆษิตาราม (วัดธาตุมหาชัย) ซึ่งมีพระธาตุมหาชัยประดิษฐานอยู่ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันพุธ ตั้งอยู่ที่อ.ปลาปาก ห่างจาก อ.เมืองประมาณ 30 นาที
และวัดที่หก ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายสำหรับทริปนี้ คือวัดมหาธาตุ ซึ่งมีพระธาตุนครประดิษฐานอยู่ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันเสาร์ (เกิดวันเสาร์ เลยต้องมาไหว้พระธาตุที่นี่แบบต้องมาให้ได้)
ของฝากของจังหวัดนครพนมที่อร่อยและต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก เพราะเชื่อว่าคนที่ได้รับต้องอร่อยจนติดใจคือหมูยอ อร่อยแทบทุกร้าน แต่ขอแนะนำหมูยอร้านเหรียญทอง เพราะอร่อยและทำเสร็จร้อน ๆ แถมที่ร้านยังมีของฝากอย่างอื่นให้เลือก
ถือเป็นทริปที่มีความสุขอีกทริป เพราะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้า และได้ไปไหว้พระเพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิตแบบที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน
สำหรับการเดินทางทั้งหมดไม่ได้ไปทุกที่ภายในวันเดียว เพราะอยุ่หลายวัน ว่างวันไหนก็ไปเมื่อนั้น ขับรถตามต่างจังหวัดรถไม่ติด ระยะทาง 40-70 กิโลเมตรก็จริง แต่ขับรถ 20-30 นาทีก็ถึง
ไม่เหมือนอยู่กรุงเทพ บางทีแค่ขับรถจากหัวลำโพงมาพระรามสี่ ยังใช้เวลา 2 ชั่วโมงก็ยังเคย
เป็นอีกเรื่องราวดี ๆ ที่อยากจะนำมาเล่าให้ฟัง
สำหรับคนที่มีเวลาและมีโอกาส ลองไปเที่ยวที่จังหวัดนครพนมและสกลนคร
ถ้าอยากไปช่วงเทศกาล จังหวัดนครพนมก็มีเทศกาลไหลเรือไฟ ส่วนจังหวัดสกลนครก็มีประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง รายละเอียดต่าง ๆ ลองถามอากู๋ดู ข้อมูลเพียบ
รับรองว่าไปแล้วจะประทับใจ อาหารอร่อย อิ่มท้อง แล้วยังอิ่มบุญอีกต่างหาก