RedSun Thailand Tokpokki กับอาหารสุดฮิตของชาวเกาหลีเสิร์ฟร้อนๆ แล้ววันนี้ที่เมืองไทย

ตอนแรกคิดว่ากระแสเกาหลีจะมาแป๊บ ๆ แล้วก็ไป เหมือนตอนกระแสฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น
ที่ไหนได้ ผ่านมาหลายปี กลับทวีความฮอทฮิตมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
เห็นน้อง ๆ หลายคนที่เคยแอนตี้เกาหลี เพราะตัวเองเป็นสาวก J-POP ตอนนี้กลายเป็นติ่งเกาหลี K-POP ไปแล้วซะงั้น

ไม่ใช่เฉพาะเรื่องดารา นักร้อง ละคร เพลง หรือซีรีส์ เท่านั้นที่ดังระเบิดระเบ้อในบ้านเรา
อาหารเกาฟหลีก็ฮิตติดลมบนไม้แพ้กัน
มาแรงตั้งแต่แรกเลยคือ BBQ แบบเกาหลี ที่ปัจจุบันกระแสก็ยังดีไม่มีตก ร้านรวงเปิดทุกหัวระแหง
จากนั้นมี Bibimbap หรือข้าวยำเกาหลี ที่ฮิตตามมา และไหนจะไก่ทอดแบบเกาหลีที่กินกับเบียร์เย็น ๆ อีก
ล่าสุดมีร้านขาย Tokpokki เปิดอย่างเป็นทางการ (ที่จริงเมนูนี้มีขายอยู่ในร้านอาหารเกาหลี เพียงแต่ร้านนี้เอามาเปิดเป็นเมนูหลักของที่ร้านเลย)

RedSun Thailand Tokpokki  อยู่ตรงสยามสแควร์แหล่งวัยรุ่น ฝั่งด้านหน้าศูนย์หนังสือจุฬาฯ
บรรยากาศร้านเป็นห้องกระจกใส บรรยากาศเหมือนอยู่ในซีรีส์เกาหลียังไงยังงั้น
(ร้านนี้เป็นร้านของคุณเมย์ พิชย์นาถ หุ้นกันกับเพื่อน ๆ)



มาดูเมนูของทางร้านกันดีกว่า




วิธีสั่งก็ไม่ยาก เลือกว่าจะกิน Tokpokki แบบไหน มี 7 แบบให้เลือก
จากนั้นเลือกระดับความเผ็ด และถ้าคิดว่าดูจากรูปแล้วไม่น่าอิ่มแน่ ๆ ก็สั่ง Topping เพิ่ม

อาหารที่ได้ออกมาตามเมนู เป๊ะ ๆ ๆ
ไม่เหมือนบางร้านที่รูปในเมนูกับอาหารที่เอามาเสิร์ฟเป็นคนละเรื่อง
แต่ก็ว่าอะไรไม่ได้ เพราะมีหมายเหตุตัวเล็กแทบมองไม่เห็นว่าภาพสำหรับการโฆษณาเท่านั้น




คือไปกันหลายคน เลยมีโอกาสสั่งหลายอย่าง
แถมยังกลัวไม่อิ่ม กระหน่ำสั่ง Topping อีกตะหาก


เคยกิน Tokpokki  ที่เกาหลี แต่ไม่ค่อยประทับใจ ทั้งที่รสชาติอร่อย
เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว  Tokpokki  คือแป้งทำเป็นแท่ง ๆ แล้วเอามาปรุ่งรสในน้ำซอสข้น ๆ
ไม่ถูกจริตคนไทยเท่าไหร่ เพระาอากาศเมืองไทยร้อนจะแย่ แต่ถ้าเป็นตอนอยู่เกาหลี ได้กินตอนอาการหนาว ๆ ก็พอแก้หนาวได้

แต่ที่ RedSun Thailand Tokpokki  นี่ไม่ต้องห่วง เนื้อเป็นเนื้อ หมูเป็นหมู ชิ้นใหญ่ ๆ โต ๆ
เห็นในเมนูหน้าตายังไง สั่งมาได้หน้าตาแบบนั้นเปี๊ยบ
แทบ Topping ก็มีให้เลือกหลากหลาย

ไม่ใช่มีเฉพาะ Tokpokki เท่านั้น
ที่ร้านยังมีเมนูอื่นอีกหลายอย่าง อร่อย ๆ ทั้งนั้น อยากให้ลองสั่งดู




ติอยู่อย่างเดียวเท่านั้น ร้านนี้ไม่่มีเบียร์ขาย แต่มี Jinro Soju ให้ซด พอให้ได้บรรยากาศแบบเกาหลี
ไม่งั้นก็คงให้คะแนนเต็ม 10 ไปแล้ว

เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยากแนะนำให้แฟนอาหารเกาหลีลองไปชิมดู


ปากหม้อปารีส ของดีของอร่อยเมืองสกลนคร

ถ้าพูดถึงอาหารอีสาน ส่วนใหญ่คนจะคิดถึงส้มตำ ลาบ น้ำตก แบบไม่ต้องสงสัย
แต่ถ้าเป็นภาคอีสานตอนบน อาหารขึ้นชื่อจะพ่วงด้วยอาหารเวียดนามไปด้วย เพราะคนเวียดนามย้ายมาตั้งรกรากที่นี่กันเยอะ (แดงแหนมเนือง วีทีแหนมเนือง นั่นไง ดังไปทั่ว)
ถ้าใครมาเที่ยวจังหวัดสกลนคร มีอาการเวียดนามอย่างนึงอยากจะแนะนำ แต่ต้องทำใจหน่อยนะว่าถ้าอยากกินของอร่อย ร้านนี้ต้องรอนาน
ร้านที่ว่าคือร้านปากหม้อปารีส (เมื่อก่อนมีโรงหนังปารีสตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ปิดกิจการไปนานแล้ว มีร้านปากหม้อนี่แหละที่ยังยืนหยัดอยู่มานาน ถามทางจากคนพื้นที่ได้ น่าจะรู้จักร้านนี้กันแทบทุกคน
กินมาตั้งแต่เด็กจนโต รสชาติอร่อยไม่เคยเปลี่ยน มีแต่เมนูที่พลิกแพลงเพิ่มมากขึ้น เมื่อก่อนเห็นมีแค่ปากหม้อธรรมดา ปากหม้อใส่หมูยอ ปากหม้อใส่ไข่ ข้าวเกรียบปากหม้อ
อย่างที่บอกว่าจะมากินร้านนี้ต้องใจเย็น เพราะคนทำคนเดียวและมีเตาเดียว ถึงจะมีเด็ก ๆ ช่วยงานหลายคน แต่ก็แค่ช่วยเสิร์ฟ ช่วยเก็บจานเท่านั้น เจ้าของร้านลงมือทำเองทุกจาน
อร่อยไม่อร่อย ขนาดนักชิมชื่อดังสองรุ่นก็แวะมาชิมถึงร้านแล้ว แต่ไม่รู้ว่าต้องนั่งรอคิวเหมือนคนอื่น ๆ หรือเปล่า
น้ำจิ้มที่นี่จะปรุงไว้ให้ แต่ถ้าใครอยากแซ๊บก็สามารถเติมเครื่องเองได้
แม่ค้าก็เหมือนรู้ว่าลูกค้าจะต้องหงุดหงิดเพราะรอนาน เลยมี Wifi ไว้บริการฟรี โอเค ดูซีรีส์กันเพลิน ๆ ไป จบหลายตอนแล้วอาจจะยังไม่ได้กิน

ประสบการณ์ครั้งแรก กับการใช้บริการ Uber

คงไม่พูดเรื่องวิธีการใช้งาน Application เรียกแท๊กซี่สุดหรูอย่าง Uber อีกแล้ว เพราะมีหลายคนรีวิวแบบละเอียดยิบเอาไว้
ซึ่งที่จริงการใช้งานก็ไม่ยาก เอาว่าเล่น Line เป็น ก็น่าจะใช้ Uber เป็น
ต้องไปดอนเมืองเพราะมีบินกับ Air Asia  เห็นหลายคนบอกเอาไว้ว่าต้องเหมาจ่าย 1,000 แต่พอดีไปอ่านเจอว่าช่วงนี้ลด 45% แถมมีเครดิตจากการใช้โค้ดอีก 300 บาท สำหรับการใช้งานครั้งแรก โอเค หักลบกลบหนี้แล้วน่าจะไม่แพงมาก
แต่ลองกดคำนวณราคาดูก่อนกลับไม่ยักเป็นแบบเหมาแฮะ แจ้งราคาโดยประมาณมาเจ็ดร้อยกว่าบาท
กดเข้าแอพแล้วเรียกรถ โชคดีมี Uber อยู่ใกล้ ๆ แค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว (สามารถดูตำแหน่งจากแผนที่ได้เลย) พนักงานโทรมายืนยันจุดที่จะให้ไปรับแบบแทบจะทันทีทันใดหลังจากกดยืนยัน
รถที่ได้เป็น Camry คันใหม่ ป้ายแดง รถใหญ่ โอ่อ่า นั่งสบาย สมราคา Camryสะอาด หอมกลิ่นใหม่ เบาะหนัง(มีบางคนบอกว่าเจอบางคันเหม็นกลิ่นบุหรี่)
พี่พนักงานคนขับรถบริการดี กุลีกุจอช่วยยกกระเป๋า
ในรถมีน้ำดื่มไว้บริการ แต่มันไม่เย็น พี่เค้าก็ไปหยิบที่แช่เย็นไว้หลังรถมาให้ เอ่อมม ประทับใจมาก เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ยังใส่ใจ
สรุปแล้วมาถึงดอนเมืองแบบรวดเร็ว นั่งรถกำลังเพลินอยู่เชียว
เบ็ดเสร็จค่าเสียหายจ่ายไป 320 บาท จากอ่อนนุชมาดอนเมือง ราคานี้รวมค่าทางด่วนเรียบร้อย (หลังจากหักส่วนลด) จากตอนแรกที่คำนวณราคาไว้ประมาณ 725 บาท ค่าโดยสารตัดผ่านบัตรเครดิตเลย ไม่ต้องจ่ายอะไรให้พนักงานแล้ว เว้นเสียแต่จะบริการถูกใจ ก็ให้ทิปไปตามสมควร
แถมรถถึงที่หมายปุ๊บ มีอีเมล์แจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายเข้ามาปั๊บแบบ Real Time 
สำหรับใครที่อยากลองใช้บริการ Uber ให้ใส่โค้ด cz5te ลงไปในช่องส่วนลด จะได้รับส่วนลด 300 บาทสำหรับการใช้บริการครั้งแรก
สรุปแล้วการใช้บริการ Uber ครั้งแรกคือประทับใจทั้้งความสะดวก รวดเร็ว และบริการที่ดี รถคันใหญ่นั่งสบาย พนักงานก็สุภาพ แถมครั้งแรกยังได้ส่วนลด 300 บาท ราคาเลยสบายกระเป๋า (ปกตินั่งแท๊กซี่แบบธรรมดาจ่ายแพงกว่านี้อีก)
ที่ชอบอีกอย่างคือตอนกรอกข้อมูลบัตรเครดิต สามารถสแกนหน้าบัตรได้เลย ไม่ต้องมาคีย์เลขทีละตัว สะดวกสบาย ไม่ต้องลุ้นว่าจะกดผิดกดถูก แก่แล้ว ตาไม่ค่อยดี อยากให้แอพอื่น ๆ ทำแบบนี้บ้าง  

“Change Your Skin Destiny” อนาคตผิวสามารถกำหนดได้ด้วยตนเอง กับ SK-II

“Change Your Skin Destiny” อนาคตผิวสามารถกำหนดได้ด้วยตนเอง กับ SK-II 

หลายคนคงกำลังตระเวนทำบุญเนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา
เชื่อว่าคงมีไม่น้อยที่กำลังขอพรให้ชาติหน้ารวย สวย หล่อ 
พร้อมกับพึมพำในใจ ชาติที่แล้วคงทำบุญมาน้อย ชาตินี้ไม่รวยแล้วยังไม่สวยอีก 

คือช้าก่อน!!!
ไม่รวยก็ขยันทำงานซะ รู้จักเก็บออม เดี๋ยวก็ลืมตาอ้าปากได้เอง 
ทีนี้พอเริ่มมีเงิน ไม่ต้องทำบุญแล้วรอให้ถึงชาติหน้า ลงทุนกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวดี ๆ รับรองชาตินี้เราก็มีผิวที่ดีได้ (ส่วนจะไปให้หมมองัดแงะ เสริม เติม แต่งส่วนไหนเพิ่มเติม ก็ต้องแล้วแต่รายไป แต่ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้านะ) 

ล่าสุด SK-II จัดงาน “Change Your Skin Destiny” พิสูจน์อานุภาพของ Facial Treatment Essence ผลิตภัณฑ์ชิ้นเอกของ เอสเค-ทู ที่เปลี่ยนผิวของหญิงสาวนับล้านทั่วโลกให้ดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใส และช่วยให้เธอสามารถกำหนดอนาคตผิวของตนเองได้ โดยมี คุณโสภิตนภา ชุ่มภาณี และ คุณสู่ขวัญ บูลกุล สองแบรนด์แอมบาสเดอร์สาวของเอสเค-ทู มาร่วมยืนยันบทพิสูจน์ใหม่แห่งผิวกระจ่างใสที่พวกเธอพิสูจน์แล้วด้วยตัวเอง และแบ่งปันเคล็ดลับการกำหนดอายุผิวให้คงความอ่อนเยาว์ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม




งานวิจัยล่าสุดจากเอสเค-ทู Skin Destiny Study ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการความงามที่มีการศึกษาเกี่ยวกับอนาคตผิวของผู้หญิง โดยเอสเค-ทู พบว่าผู้หญิงมีอำนาจเปลี่ยนอนาคตผิวของตนเองได้ด้วย เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอ็สเซ็นส์ ผลการศึกษา Skin Destiny Study เปิดเผยว่า การใช้เอสเค-ทูตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อให้เกิดผลดีกับผิวอย่างแท้จริง โดยนักวิจัยเอสเค-ทูค้นพบความสัมพันธ์อันมีนัยยะสำคัญกับการใช้ เอสเค-ทู เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอ็สเซ็นส์ ติดต่อกันเป็นเวลานาน และผลลัพธ์แห่งผิวกระจ่างใสที่ดีขึ้นแม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปเมื่ออายุมากขึ้น ผู้ใช้เอ็สเซ็นส์เป็นเวลานาน ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปี ต่างมีผิวสวยคงความอ่อนเยาว์ในวัย 30 และ 40 ปี นอกจากนี้ ผู้หญิงที่เริ่มใช้ เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอ็สเซ็นส์ เร็วและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ‘อายุผิว’ ของผู้หญิงกลุ่มนี้จะหยุดไว้ที่ 40 ปี แม้เมื่ออายุจริงมากขึ้น ผู้ใช้ที่ผูกพันกับเอสเค-ทูมาอย่างยาวนานต่างไม่ต้องประสบกับสัญญาณแห่งวัยที่เพิ่มขึ้นหลังอายุ 50 ปี

คุณเจี๊ยบ - โสภิตนภา ชุ่มภาณี กล่าวถึงการกำหนดอนาคตผิวว่า “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอนาคตผิว หรือความสำเร็จในชีวิต เจี๊ยบเชื่อว่าการเริ่มต้นที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เจี๊ยบไม่รู้เลยว่า อนาคตผิวเจี๊ยบจะเป็นอย่างไร จนได้รู้จักเฟเชียล ทรีทเมนท์ เอ็สเซ็นส์ ผิวเจี๊ยบดูกระจ่างใสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะอีก 10, 20 หรือ 30 ปี เจี๊ยบไม่กังวลแล้วค่ะ และเจี๊ยบมีความสุขทุกครั้งเมื่อมีคนทักว่าผิวของเจี๊ยบยังคงแลดูอ่อนเยาว์ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ทั้งนี้เพราะเจี๊ยบมีผู้ช่วยที่ดีในการดูแลอายุผิวไม่ให้เปลี่ยนไปไปตามอายุจริง” 

ทางด้าน คุณขวัญ – สู่ขวัญ บูลกุล เสริมว่า “ขวัญเชื่อว่าเราสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้ ด้วยความมุ่งมั่นและการลงมือทำ แต่บางครั้งเราต้องอาศัยเทคนิคพิเศษหรือตัวช่วยพิเศษที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ สำหรับผิวแล้ว เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอ็สเซ็นส์ เป็นเสมือนพลังสำคัญที่มาเปลี่ยนแปลงผิวและช่วยให้ขวัญสามารถกำหนดอนาคตผิวกระจ่างใสด้วยตัวเอง ปัจจุบันผิวของขวัญดีขึ้นเรื่อยๆ จนขวัญสังเกตได้ถึงความแตกต่าง เมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ขาดตัวช่วยที่ดีในการดูแลผิว”



ทั้งคุณเจี๊ยบและคุณสู่ขวัญ ยังสวยและดูผิวเปล่งประกายทุกครั้งที่เจอ น่าจะเป็นเพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ของ SK-II มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จะว่าไปแล้ว ทั้งสองคนก็ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ SK-II มากว่าสิบปีแล้ว (มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์คนเดิมอย่างต่อเนื่องยาวนานขนาดนี้)

ส่วนตัวมีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ SK-II อย่างจริงจังมาเกือบปีแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าผิวดีขึ้นจริง ๆ ถึงแม้จะเริ่มใช้เอาเมื่อตอนอายุล่วงเลยวัย 30 มาพักนึงแล้วก็ยังเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องของจุดด่างดำ ความหมอคล้ำ หรือปัญหาเรื่องรูขุมขน 

อยากมีผิวดี ไม่ต้องไปทำบุญแล้วรอชาติหน้า เราสามารถกำหนดได้ด้วยตัวเราเอง เข้าใจตรงกันนะ 








มาพก Playlist ส่วนตัว ไปเที่ยวกันเถอะ

มาพก Playlist ส่วนตัว ไปเที่ยวกันเถอะ 


ล่าสุดไปเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งตอนกลางวันไม่คิดจะไปไหนอยู่แล้ว คงนอนหมกตัวอยู่ในโรงแรม
เลยพกสาย HDTV  ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ไปด้วย เพราะ TV โรงแรมคงไม่ค่อยมีอะไรน่าดู
ย้อนกลับไปอ่านได้ที่  รีวิว HDTV Adapter

บางโรงแรมมีเครื่องเล่น DVD ให้ในห้อง แต่ใครจะขยันพกแผ่น DVD ติดตัว
ส่วนใหญ่โรงแรมสมัยนี้เป็นเป็นจอแบนหมดแล้ว ซึ่งแทบทั้งหมดจะมีช่อง HDMI มาให้


แค่ต่อเข้าไปกับ TV และเชื่อมต่อเข้ากับมือถือ
ทีนี้ก็สามารถฟังเพลงจาก Playlist ที่สร้างไว้ในมือถือได้แล้ว
หรือจะดูหนัง ดูซีรีส์ออนไลน์ก็ทำได้ ขอแค่เนทแรง (ไม่ต้องหอบหิ้วโน๊ตบุ๊คแล้วลำบากดูจากจอเล็ก ๆ)



มีหลายคนเลยทีเดียวที่นอนโรงแรมมากกว่าบ้าน
เพื่อนเป็นเซลล์ ต้องออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ เดือนหนึ่งกลับบ้านแค่ไม่กี่วัน
หรือบางคนไปท่องเที่ยวเดินทางบ่อย ๆ จะได้มีอะไรดูแก้เบื่อ ถ้าต้องหมกตัวในโรงแรม
ไม่ต้องหอบลำโพงส่วนตัวไปเองให้ลำบาก เสียงออกจากจอ TV กระหึ่มดีทีเดียว

ปล. โรงแรมที่ไปพักมาล่าสุดคือโรงแรม กลาเซียร์ จ.ขอนแก่น ถือเป็นอีกทางเลิกสำหรับคนที่จะเดินทางไปที่นั่น ราคาประหยัด ห้องโอเคทีเดียว







ย่งหลี สุขุมวิท 39 ร้านอาหารจีนรสชาติแซ๊บจัดจ้านแบบไทย ๆ

ย่งหลี สุขุมวิท 39 ร้านอาหารจีนรสชาติแซ๊บจัดจ้านแบบไทย ๆ 

พูดถึงอาหารจีน คนไม่น้อยคงนึกถึงความเลี่ยนและมัน 
แต่วันนี้จะมาแนะนำร้านอาหารจีนรสแซ๊บจัดจ้านแบบไทย ๆ 
ชื่อร้านย่งหลี อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 (ฝั่งตรงข้ามเอ็มโพเรียม) 
ขับรถเข้ามาในซอบแล้วจอดชิดข้างทางได้เลย
หรือถ้านั่งรถไฟฟ้า BTS มาก็ลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดินเข้ามาในซอยสุขุมวิท 39  ประมาณ 50 เมตร 
ร้านจะอยู่ทางด้านขวามือ เป็นห้องแถวเก่า เฟอร์นิเจอร์แบบโบราณ 
เห็นป้ายชื่อร้านแล้วรู้เลยว่าอร่อยแน่ ๆ 


เมนูเด็ดไม่ควรพลาดมีหลายเมนู ลองถามเจ้าของร้านให้แกแนะนำได้ 
หน้าตาอาจจะไม่ค่อยยิ้มแย้ม แต่ใจดี 


เมนูที่จะสั่งทุกครั้งที่ไปไม่เคยพลาด (นอกจากจะหมดซะก่อน)  คือกุ้งเต้น 
เป็นกุ้งตัวใหญ่ ๆ สด ๆ มันเยิ้ม ย่างไฟเล็กน้อยพอสะดุ้งแล้วราดด้วยน้ำจิ้มรสแซ๊บ เปรี้ยวจี๊ดเผ็ดถึงใจ 


ตับหมูทอดกระเทียมก็อร่อย ไม่ควรพลาด ทอดมาสุกกำลังดี ตับนุ่ม ฉ่ำน้ำนิด ๆ หอมกระเทียมพริกไทย 


แฮ่กึ้นทอด ก็อร่อยแบบกรอบนอก นุ่มใน มีความหวานนิด ๆ 


ไส้ทอด ที่กินได้เพลิน ๆ เหมาะอย่างยิ่งกับการสั่งมากินแกล้มเบียร์ 


วันนี้ต้มยำขาหมูหมด (เสียดายมาก) เลยสั่งต้มยำรวมมิตรทะเลมาแทน 
ทั้งปลา ทั้งกุ้ง ให้มาตัวใหญ่ ๆ ชิ้นโต ๆ 


เมนูที่ปกติไม่เคยสั่ง แต่วันนี้ลองสั่งมาชิมดูคือขาหมูยัดไส้  
อร่อยมาก รู้สึกเสียดายเล็กน้อย ทำไมไม่สั่งมาชิมตั้งนานแล้ว 
รสาติดีกว่า Cold Cut ของบางโรงแรมซะอีก 
ลองเอามาจิ้มกับน้ำของกุ้งเต้น อร่อยเผ็ด แซ๊บกำลังดี 


วันนี้มากันสามคน สั่งไปหลายอย่าง มีเบิ้ลตับทอดไปด้วยอีกหนึ่งจาน 
ค่าเสียหมดไป 1,200 บาท (มีกุ้งเต้นที่ราคาแพงกว่าเมนูอื่น คือ  500 บาท แต่ก็อร่อยคุ้มค่าเกินราคา) 

 
เป็นอีกหนึ่งร้านอร่อย ที่อยากให้ไปลองชิมกัน 
รับรองไม่ผิดหวังแน่ ๆ