คนละเล็กคนละน้อย กับการซื้อของเยี่ยมไข้

ไม่แน่ใจเคยเป็นกันมั๊ย
เวลาต้องซื้อของให้คนในโอกาสพิเศษเช่นปีใหม่  วันเกิด  หรือเวลาต้องซื้อของสำหรับไปเยี่ยมคนป่วย
จะคิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้ออะไรดีนะ
ส่วนใหญ่อันดันแรก ๆ ที่คนจะคิดออกคงเป็นพวกดอกไม้ กระเช้าผลไม้ หรือจะเป็นพวกนมตราหมี(เพื่อคนที่คุณรัก) รังนก หรือซุปไก่สกัด (สามออย่างหลังเป็นไปตามแผนการตลาดที่โปรโมทว่าการให้ของพวกนี้เป็นของขวัญจะแสดงถึงความห่วงใย)

โดยส่วนตัวแล้ว เวลาจะให้ของอะไรกับใครซักคน จะคิดแล้วคิดอีก เพราะเป็นคนค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
ล่าสุด เพื่อนต้องล้มหมอนนอนเสื่อเข้าโรงพยาบาลอยู่หลายวัน
จะไปเยี่ยมก็คงต้องมีของติดไม้ติดมือเสียหน่อย
กระเช้าผลไม้หรือดอกไม้นี่ตัดออกไปก่อนเลย
เพราะเห็นเพื่อนโพสท์ผ่าน Social เห็นห้องกายเป็นเหมือนสวนดอกไม้ไปแล้ว
จินตนาการได้ถึงความหอมที่มันมากเกินไป อาจจะหอมจนปวดหัวได้
หรือกระเช้าผลไม้ เพื่อนก็คงไม่ใครอยากจะกินอะไร
นม รังนก ซุปไก่สกัด ก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพราะนางเป็นคนกินยาก
คิดแล้วคิดอีกจะให้อะไรดี

เผอิญเป็นคนติดซีรีส์เกาหลี เห็นในซีนที่นางเอกเข้าโรงพยาบาลจะมีเครื่องพ่นไอน้ำออกมา
ลองหาข้อมูลดูพบว่าเป็นเครื่องพ่นไอน้ำ ช่วยทำให้อากาศชื้น
เรียกได้ว่าเข้าทางกันเลยทีเดียว เพราะเพื่อนต้องนอนพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน
แถมเพื่อนเป็นคนติดแอร์ ต้องเปิดแบบเย็นสุด ๆ คิดว่าอากาศคงแห้ง
มีเครื่องพ่นไอน้ำคงช่วยได้เยอะ

ว่าแล้วหาข้อมูลต่อ ราคาเครื่องพ่นไอน้ำมีหลายราคา ตั้งแต่ไม่กี่ร้อยไปจนถึงหลักหมื่น
จะให้ซื้อราคาหลักร้อยก็ไม่ไหว ไม่ใช่กลัวเสียหน้าอะไร
แต่ถ้าเกิดระเบิดตู้มต้ามขึ้นมา หรือเอาไปใช้งานแล้วสามวันพังจะทำยังไง
ให้คนป่วยลุกจากเตียงเอาเครื่องไปเปลี่ยนก็ใช่เรื่อง
แต่จะให้ซื้อหลักหมื่นก็ไม่ไหว
มีย้อห้อ OSIM นี่แหละ ที่ดูราคาแล้วพอรับได้ และคิดว่าคงไม่ระเบิดตู้มต้ามแน่ ๆ เพราะมีพี่หลิวเต๋อหัว เป็นพรีเซนเตอร์ (เกี่ยวกันมั๊ย?)

 ราคา 4,990 ถามว่าแพงมั๊ย ตอบเลยว่าแพง
แต่คิดว่าถ้าซื้อไปเพื่อนได้ใช้งานจริง ๆ แน่ ก็น่าจะคุ้มค่า คุ้มราคา

ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ อยู่ดี ๆ ก็นึกขึ้นได้ ว่ามีเพื่อนอีกตั้งหลายคนอยากไปเยี่ยมเพื่อนคนนี้
แต่ก็มาไม่ได้ เพราะตัวอยู่ไกล บางคนอยู่ต่างประเทศเลยก็มี
หรือบางคนอยู่ไม่ไกล แต่ด้วยภาระหน้าที่ เลยยังไม่ได้ไปเยี่ยมซักที

คิดได้ดังนั้นก็เกิดการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ คุยกับเพื่อนหลาย ๆ คนผ่านทั้งทาง Whatsapp, Line และ Facebook
แจ้งข้อมูลกับทุกคนไปตามจริง ว่าเจ้าเครื่องนี้ถึงจะแพง แต่ก็ใช้งานได้จริง ทุกคนเห็นด้วย และยินดีที่จะหุ้นกันซืื้อของเยี่ยมคนป่วยชิ้นนี้

จากตอนแรกแค่ไม่กี่คน คุยกันไปคุยกันมา กลายเป็นที 14 คนที่ขอร่วมหุ้น และฝากกำลังใจไปเยี่ยม
กลายเป็นว่าจากตอนแรกที่จะต้องจ่าย 4,990 บาท คนเดียว เมื่อหาร 14 คนแล้ว จ่ายแค่คนละประมาณ 360 บาทเท่านั้นเอง

360 บาท ยังซื้อกระเช้าดอกไม้หรือผลไม้ไม่ได้เลย
คงได้นมแค่ไม่กี่แพค รังนกหรือซุปไก่สกัดแค่ไม่กี่ขวด แถมไม่รู้ว่าคนได้รับจะอยากกินมั๊ย
เพราะเห็นหลายครั้งแล้วที่ของเยี่ยมคนป่วยไม่ได้กิน เป็นของที่ญาติคนป่วยกินมากกว่า

สุดท้ายแล้วเจ้าเครื่องพ่นไอน้ำที่มีหลาย ๆ คนเป็นเจ้าภาพร่วมก็ส่งถึงมือผู้รับ
เอาเข้าจริง ๆ ไม่รู้หรอกว่าจะถูกใจมั๊ย แต่แค่ไปเยี่ยมแต่ละครั้งแล้วเห็นว่าเครื่องถูกเปิดใช้งานอยู่ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
จะว่าไปแล้วความสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่เครื่องพ่นไอน้ำหรอก แต่เป็นเพราะเพื่อนหลาย ๆ คนได้แสดงความห่วงใย และร่วมใจกันมากกว่า ต่อให้ไม่มีอะไรติดมือไปให้เลย คิดว่าคนป่วยก็คงดีใจแม้จะแค่ได้เจอหน้าและพูดคุย

เพราะหลายคนคงอยากมาเยี่ยมด้วยตัวเอง แต่การส่งใจมาแบบนี้เชื่อว่าก็ทำให้คนป่วยมีกำลังใจที่ดีขึ้น และหายป่วยในเร็ววัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น